สงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งยาวนานกว่าสี่ปี ตั้งแต่ 28 กรกฎาคม ปี 1914 ถึง 11 พฤศจิกายน ปี 1918 ได้เปลี่ยนแปลงการจัดระเบียบโลกทั้งใบ ระบบกษัตริย์และจักรวรรดิล่มสลายในรัสเซีย เยอรมนี ตุรกีและออสเตรีย-ฮังการี และถูกแทนที่ด้วยประชาธิปไตยและเผด็จการ การผูกสัมพันธ์ระหว่างชาติต่างๆ ได้เกิดขึ้นในสงครามครั้งนั้น ซึ่งยังคงปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้ มันช่วยวางพื้นฐานให้กับองค์กรสหประชาชาติ มันก่อเกิดจุดเริ่มต้นของยุโรปที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ท่ามกลางการลุกฮือและการปฏิวัติทั่วยุโรป อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ได้ขึ้นครองอำนาจในเยอรมนีและการขยายดินแดนและการไขว่คว้าอำนาจของเขา ท่ามกลางปัจจัยอื่นๆ ก็นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่สองใน 20 ปีให้หลัง
มันส่งผลกระทบต่อแทบทุกทวีปและแทบทุกประเทศในอารยธรรมตะวันตก มันเป็นหนึ่งในสงครามครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตของทหารและพลเรือนประมาณ 16 ล้านคน เมื่อเทียบกันแล้ว มีผู้คนถูกฆ่าตายในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งมากกว่าจำนวนประชากรทั้งหมดในรัฐนิวยอร์กปัจจุบัน และมากกว่าจำนวนประชากรปัจจุบันของเบลเยียมและสวีเดนรวมกันเสียอีก
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งเป็นสงครามจักรกลครั้งแรก มันเริ่มต้นด้วยม้าและจบลงด้วยรถถัง มันริเริ่มสงครามเคมี สงครามทางอากาศ และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ นอกจากนั้น มันยังนำไปสู่โรคระบาดครั้งร้ายแรงที่สุดในศตวรรษที่ 20 ซึ่งคือโรคไข้หวัดใหญ่ระบาดในปี 1918 ซึ่งประมาณการแล้วว่าคร่าชีวิตผู้คนประมาณ 50-100 ล้านคนทั่วโลก
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่ถูกรู้จักในนามของสงครามที่ยิ่งใหญ่และสงครามที่ยุติทุกสงคราม เกี่ยวข้องกับบุคลากรทางทหารกว่า 70 ล้านคน มากกว่าประชากรทั้งหมดของสหราชอาณาจักรในปัจจุบัน รวมถึงชาวยุโรป 60 ล้านคนด้วย มันเป็นหนึ่งในสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ความเป็นมา
โดยสรุปสั้นๆ สงครามโลกครั้งที่หนึ่งเริ่มต้นขึ้นในเดือนกรกฎาคม ปี 1914 เมื่อนักชาตินิยมชาวยูโกสลาเวียเชื้อสายบอสเนียนเซิร์บได้ลอบสังหารอาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ รัชทายาทบัลลังก์จักรวรรดิออสเตรีย ฮังการี ออสเตรียได้ยื่นข้อเรียกร้องกับเซอร์เบีย ซึ่งเซอร์เบียปฏิเสธ ทั้งสองฝ่ายพร้อมที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่สงคราม แต่เนื่องด้วยเครือข่ายพันธมิตรของประเทศทั้งสอง ทำให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้นไปครอบคลุมพื้นที่ยุโรปทั้งหมดและพื้นที่อื่นๆ ด้วย สองฝ่ายหลักๆ ในสงครามครั้งนี้กลายเป็นฝ่ายไตรภาคี (ฝรั่งเศส รัสเซียและอังกฤษ) และฝ่ายไตรพันธมิตร (เยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการีและอิตาลี) อเมริกาเข้าสู่สงครามในช่วงปลาย ในเดือนเมษายน ปี 1917 ในฝ่ายของไตรภาคี หลังจากที่เรือดำน้ำของเยอรมันได้จมเรือสินค้าของอเมริกาและอเมริกาได้รู้ว่าเยอรมนีพยายามจะชักจูงเม็กซิโกให้ทำสงครามกับอเมริกา
ผลกระทบ
สงครามโลกครั้งที่หนึ่งเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับสภาวะด้านการเมือง วัฒนธรรม เศรษฐกิจและสังคมของโลก สงครามและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นตามหลังก่อให้เกิดการปฏิวัติและการลุกฮือต่อต้านหลายครั้ง สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกาและอิตาลีได้ประกาศบังคับเงื่อนไขของพวกเขาต่อประเทศผู้แพ้ในสนธิสัญญาต่างๆ ที่ได้มีการทำข้อตกลงกันที่การประชุมสันติภาพปารีสค.ศ. 1919 สนธิสัญญาที่โด่งดังที่สุดก็สนธิสัญญาสันติภาพของเยอรมัน หรือสนธิสัญญากรุงแวร์ซายส์นั่นเอง เมื่อสงครามสิ้นสุดลง จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี, เยอรมัน, ออตโตมันและรัสเซียก็ล่มสลาย และก่อกำเนิดเป็นรัฐชาติใหม่ๆ ขึ้นมา
แต่แม้ว่าชัยชนะจะตกเป็นของฝ่ายสัมพันธมิตร และการก่อตั้งองค์การสันนิบาตชาติระหว่างการประชุมสันติภาพ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันสงครามที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ผลลัพธ์ที่ตามมากลับนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่สองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภายในเวลาเพียงแค่ 20 ปีให้หลัง เยอรมนี ที่ถูกตัดกำลังด้านเศรษฐกิจด้วยเงื่อนไขจากสนธิสัญญาแวร์ซายส์ ในตอนนี้กลายเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเฟื่องฟูของพรรคชาตินิยมหัวรุนแรงอย่างอาณาจักรที่สามและผู้นำอย่างฮิตเลอร์ ในขณะเดียวกัน ประชากรของประเทศสัมพันธมิตร ที่โศกสลดจากความสูญเสียลูกหลานของพวกเขา ก็เกิดความรู้สึกต่อต้านการเข้าสู่สงครามอีกครั้งหนึ่ง ความต่อต้านนี้จากประเทศพันธมิตร ซึ่งหลักๆ แล้วก็คือสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศส ทำให้ฮิตเลอร์สะสมอำนาจ รุกรานประเทศอื่นๆ และเริ่มต้นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยที่ไม่มีใครจับพิรุธได้ จนกระทั่งทุกอย่างเกือบจะสายเกินไป